วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560
มะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งท่อน้ำดี เป็นก้อนเนื้อร้ายที่เกิดจากเซลล์เยื่อบุผนังของท่อทางเดินน้ำดีซึ่งรวมถึงท่อน้ำดีภายในตับและท่อน้ำดีภายนอกตับ พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ในประเทศไทยโรคนี้เป็นปัญหาทางสาธารณสุขสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการรับประทานปลาน้ำจืดแบบดิบๆ ทำให้ได้รับตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ตับ
ปัจจัยเสี่ยง
• ชนิดของมะเร็งท่อน้ำดี
• ปัจจัยเสี่ยง
• อาการของมะเร็งท่อน้ำดี
• การวินิจฉัยโรค
• การรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดี
ชนิดของมะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งท่อน้ำดีสามารถแบ่งออกตามตำแหน่งของมะเร็งได้ 2 ชนิด คือ
• มะเร็งท่อน้ำดีภายในตับ เกิดจากเซลล์ของเยื่อบุท่อน้ำดีในตับและขยายออกสู่เนื้อตับข้างๆ ทำให้มีลักษณะคล้ายมะเร็งตับ จึงเป็นโรคที่มักถูกวินิจฉัยผิดว่าเป็นมะเร็งตับ
• มะเร็งท่อน้ำดีภายนอกตับ จะเกิดที่ท่อน้ำดีใหญ่ตั้งแต่ขั้วตับจนถึงท่อน้ำดีร่วมส่วนปลาย มะเร็งชนิดนี้ทำให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำดี ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
ปัจจัยเสี่ยง
ในประเทศไทย ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งท่อน้ำดีที่สำคัญโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ การรับประทานปลาน้ำจืดแบบดิบๆ ทำให้ได้รับตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งจะเจริญเติบโตอยู่ในท่อน้ำดี
สำหรับปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจมีผลทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีมีดังนี้
• ภาวะท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง
• โรคของระบบทางเดินน้ำดี
• มีนิ่วในตับ
• โรคทางพันธุกรรมผิดปกติแต่กำเนิด เช่น โรคมีถุงน้ำผิดปกติในระบบทางเดินน้ำดี
อาการของมะเร็งท่อน้ำดี
โดยส่วนใหญ่มะเร็งท่อน้ำดีในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการ แต่เมื่อโรคลุกลามมากแล้วอาจมีอาการแสดงได้ เช่น
• อาการตัวเหลืองตาเหลืองซึ่งเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำดี
• มีอาการไม่สบายในท้อง อึดอัด แน่นท้อง
• ปวดท้องส่วนบนบริเวณใต้ชายโครงขวา อาจมีอาการปวดหลังและไหล่ร่วมด้วย
• มีไข้ไม่ทราบสาเหตุ
• คันบริเวณผิวหนังทั่วร่างกาย
• อุจจาระมีสีซีดและปัสสาวะมีสีเข้ม
• เหนื่อย อ่อนเพลีย
• เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง
• คลื่นไส้ อาเจียน
• คลำหน้าท้องพบตับโต
การวินิจฉัยโรค
• การซักประวัติและตรวจร่างกาย
• การตรวจเลือดดูการทำงานของตับและสารบ่งชี้มะเร็ง
• การตรวจอัลตราซาวนด์ตับและช่องท้องส่วนบน
• การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
• การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
การรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดี
การรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดีแพทย์จะพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาด ตำแหน่ง และลักษณะของเซลล์มะเร็ง ระยะโรคและการกระจายของมะเร็ง สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย เพื่อวางแผนการรักษาที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
• การผ่าตัด เป็นการรักษาหลักของโรคมะเร็งท่อน้ำดี
o การผ่าตัดเนื้องอก เป็นวิธีการรักษามาตรฐานที่ได้ผลดีและเพิ่มอัตรารอดชีวิตของผู้ป่วยได้
o การผ่าตัดระบายท่อน้ำดี ในผู้ป่วยที่คาดว่าสามารถผ่าตัดเนื้องอกได้แต่ในขณะที่ผ่าตัดพบว่าระยะโรคไม่สามารถผ่าตัดออกได้ ควรได้รับการผ่าตัดระบายท่อน้ำดีเพื่อรักษาอาการคันและตัวเหลืองตาเหลือง
• การส่องกล้องตรวจรักษาท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (endoscopic retrograde cholangiopancreatography: ERCP) ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดเนื้องอกออกได้หรือผู้ป่วยไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้
• เคมีบำบัด/รังสีรักษา ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดเอามะเร็งออกได้หมด หรือใช้ในการรักษาหลังผ่าตัดเพื่อเพิ่มโอกาสการหายขาด
การติดตามผลการรักษา
ผู้ป่วยควรได้รับการติดตามผลการรักษาโดยวิธีสังเกตอาการและตรวจอัลตราซาวนด์หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทุก 3-6 เดือนจนครบ 2 ปี
ที่มา : https://www.bumrungrad.com/th/liver-center-treatment-transplant-bangkok-thailand/conditions/cholangiocarcinoma
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น